Synovy มาร์กี้ ผลิตภัณฑ์ดีท็อก ล้างลำใส้ ขับล้างสารพิษจากร่างกาย โทร 094...





Synovy มาร์กี้ ผลิตภัณฑ์ดีท็อก ล้างลำใส้ ขับล้างสารพิษจากร่างกาย

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.synovydetoxthailand.com

โทร 088-826-4444 , 094-709-4444

        089-071-8889 , 094-435-0404

LINE ID : @Jumbolife







ซินโนวี่



คุณประโยชน์หลัก : ดีท็อกซ์ ล้างพิษ เพิ่มจุลินทรีย์ตัวดี ปรับสมดุลให้ระบบทางเดินอาหารและลำใส้



วิธีรับประทาน : ชงซินโนวี่ [Synovy] 1ซอง เทลงในน้ำปริมาณ150-200ml ควรเป็นน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องปกติ ไม่ควรชงในน้ำร้อน คนให้ละลายเข้ากันแล้วดื่มก่อนนนอน



ขนาดรับประทาน : วันละ 1 ซอง



คำเตือน : เด็ก สตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน



ซินโนวี่ ดีท็อกซ์ [Synovy Detox] ทานแล้วได้อะไร?

- ช่วยล้างสิ่งสกปรกในลำไส้

- ช่วยชำระสิ่งตกค้างของสารพิษในลำไส้

- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แก้ท้องผูก

- ช่วยให้ระบบการดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

- ช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีผิวพรรณที่สดใส

- มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก กระชับสัดส่วน

- คลอเลสเตอรอล ระดับไขมัน และน้ำตาลในเลือด

- ช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกายให้กลับมามีประสิทธิภาพ















คุณสมบัติเด่นของ Synovy Fiber ซินโนวี่ ไฟเบอร์ ดีท๊อกซ์

- ช่วยล้างสิ่งสกปรกในลำไส้ ลดการตกค้างของสารพิษ

- ลดการเสี่ยงการเกิดโรค

- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แก้ท้องผูก ขับถ่ายดีทุกวัน

- ลดคลอเรสเตอรอล ระดับไขมัน

- ช่วยให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีผิวพรรณสดใส

- มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก กระชับสัดส่วน

- ปรับสมดุลของร่างกายให้กลับมามีประสิทธิภาพ



ซินโนวี่ ดีท็อกซ์ Synovy Detox นวัตกรรมใหม่ของการดีท็อกซ์



มีกากใยอาหาร (Fiber) สูงถึง 8,200 มิลลิกรัม

ส่วนผสมมาจากสารสกัดจากธรรมชาติระดับโลก และมีประโยชน์ต่อร่างกายที่สุด

มีจุลินทรีย์พรีไบโอติก (Prebiotic) สายพันธุ์ที่ดีต่อร่างกาย BC30

มีอาหารของจุลินทรีย์มากขึ้น ถึง2ชนิด FOS และ GOS





คนกลุ่มไหนควรทาน Synovy Detox ซินโนวี่ ไฟเบอร์ ดีท๊อกซ์ 

- คนที่มีปัญหาท้องผูก ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ ขับถ่ายยาก เป็นประจำ

- บริโภคผัก และผลไม้น้อย มีนิสัยการรับประทานไม่ถูกโภชนาการ ทานแต่ของไม่มีประโยชน์

- คนที่มีสภาวะอ่อนเพลีย / ตึงเครียด อารมณ์เสียง่าย โดนมลภาวะบ่อยๆ ร่างกายไม่เคยนำสารพิษออกบ้าง

- คนที่มีปัญหากลิ่นตัวรุมเร้า เนื่องจากภายในร่างกายสะสมของเสีย และสารพิษไว้มาก

- ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจาก ซินโนวี่ สกัดจากธรรมชาติ จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

BIM100 ดูแลสุขภาพโรคกรดไหลย้อน ปวดกระดูก ภูมิแพ้ โทร 094 435 0404





BIM100 ดูแลสุขภาพโรคกรดไหลย้อน ปวดกระดูก ภูมิแพ้ 

BIM100 น้ำมังคุด อาหารเสริมสมุนไพร สร้างภูมิสมดุล

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.jumbolifeshop.com/p/20

โทร 088-826-4444 , 094-709-4444

        089-071-8889 , 094-435-0404

LINE ID : @Jumbolife





โรคกรดไหลย้อน



     คนไทยคุ้นเคยกันดีกับโรคกระเพาะอาหาร ฉะนั้นเมื่อเกิดอาการ "เรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปาก ปวดแสบร้อนในช่องท้องส่วนบน ปวดบริเวณหน้าอก" ก็จะคิดไว้ก่อนว่านั่นเป็นอาการของโรคกระเพาะอาหาร ทั้งที่ความจริงแล้วอาจจะเป็น "โรคกรดไหลย้อน จากกระเพาะสู่หลอดอาหาร (Gastro esophageal Reflux Disease : GERD)"



     "โรคกรดไหลย้อน" เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยของที่ไหลย้อนส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก โดยอาจมีหรือไม่มีหลอดอาหารอักเสบก็ได้



      ผู้ป่วยด้วยโรคนี้จะมีอาการแสบยอดอก เรอเปรี้ยว ภาวะนี้อาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบหรือเป็นมากจนเกิดแผลรุนแรง จนทำให้ปลายหลอดอาหารตีบ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ของเยื่อบุหลอดอาหารได้ บางรายอาจรุนแรงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้



     "แต่เท่าที่พบผู้ป่วยบางรายไม่ได้มาด้วยอาการแสบยอดอก เรอเปรี้ยว แต่มาหาหมอด้วยอาการของโรคหู คอ จมูก เช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบเรื้อรัง มีกลิ่นปาก หรืออาจมาด้วยอาการทางระบบหายใจ เช่น หอบหืด บางรายก็มาด้วยอาการเจ็บหน้าอก ซึ่งเมื่อวินิจฉัยแล้วไม่พบโรคอื่น ก็จะส่งมาที่แผนกและส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน"



     โรคกรดไหลย้อน มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ลักษณะของโรคคือการที่มีกรดไหลย้อนขึ้นจากกระเพาะอาหารมาที่หลอดอาหาร โรคกรดไหลย้อนมักพบได้จากการที่มีการอักเสบของหลอดอาหาร โรคกรดไหลย้อน ซึ่งมีผลกระทบได้ในทุกช่วงอายุ และวิถีชีวิตในแถบยุโรป พบได้ในผู้ใหญ่ ประมาณ 20-40% ซึ่งอาการที่พบเป็นประจำคืออาการแสบยอดอก















     โรคกรดไหลย้อนจะพบได้มากใน ทุกกลุ่มอายุ แต่ที่พบมาก และมักจะมีอาการรุนแรงจะเป็นกลุ่มคนอ้วน ยิ่งกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ยิ่งมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น



     อาการของโรคจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอาการนอกหลอดอาหารจะมีอาการเจ็บคอเรื้อรัง ซึ่งหากเจ็บคอเรื้อรังแต่หาสาเหตุไม่พบส่วนใหญ่ 70% จะเป็นโรคกรดไหลย้อน ส่วนที่มีอาการในหลอดอาหารจะมีการอักเสบ



     การวินิจฉัยโรค ไม่แนะนำให้ใช้วิธีส่องกล้อง ยกเว้นในรายที่มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง ถ่ายอุจจาระสีดำ เพราะการส่องกล้องจะวินิจฉัยได้เพียง 10-30% เท่านั้น หากรักษาด้วยการใช้ยารักษา ซึ่งใช้ดีที่สุดในกลุ่มคนไข้ที่มีการอักเสบของหลอดอาหาร หากให้ยาแล้ว 2 สัปดาห์อาการดีขึ้นก็ให้สันนิษฐานว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน



     "การปรับพฤติกรรมการกิน การนอน จะสามารถช่วยรักษาได้ 20% แต่หากใช้ยาในการรักษาจะหายได้ 80-100% คนไทยจะพบโรคนี้ประมาณ 7.4% ซึ่งมากกว่าเบาหวานซึ่งจะพบแค่ 4% ของประชากรเท่านั้น แต่ผู้ที่มีโรคนี้ประมาณ 40% จะไม่กระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน" แต่หากรักษาด้วยยาไม่ได้ผลก็จะใช้วิธีการผ่าตัดด้วยการ "ผูกหูรูดกระเพาะอาหาร" เพื่อไม่ให้กรดไหลย้อน แต่การผ่าตัดต้องใช้ฝีมือศัลยแพทย์มือหนึ่ง ซึ่งมีแพทย์ที่ทำได้ไม่มากนักในเมืองไทย



     ให้เราคิดว่าเราแบ่งภาวะที่มีการไหลย้อนจากกระเพาะอาหารเข้าหลอดอาหารนี้เป็น 3 ระดับหรือ 3 กลุ่ม



ระดับแรก เป็นระดับที่อ่อนที่สุด คือเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง หรือนานๆเป็นทีแล้วก็หายไป มีภาวะไหลย้อนนิดหน่อย ไม่มีอาการอะไรที่รบกวนสุขภาพ ซึ่งถือว่าเป็นความปกติของร่างกาย อย่างนี้เรียกว่า GER

ระดับที่สอง คือเกิดภาวะไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหารเฉพาะบริเวณใกล้ๆกับกระเพาะอาหาร มีอาการที่รบกวนสุขภาพ อย่างนี้เรียกว่า GERD

ระดับที่สาม คือเกิดภาวะไหลย้อนที่รุนแรงคือไหลเข้าสู่หลอดอาหารย้อนขึ้นมาจนถึงคอ อย่างนี้เรียกว่า LPR

BIM100 ภูมิสมดุล ดูแลสุขภาพไมเกรน กรดไหลย้อน โทร 089 071 8889





BIM100 ภูมิสมดุล ดูแลสุขภาพไมเกรน กรดไหลย้อน

BIM100 น้ำมังคุด อาหารเสริมสมุนไพร สร้างภูมิสมดุล

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.jumbolifeshop.com/p/20

โทร 088-826-4444 , 094-709-4444

        089-071-8889 , 094-435-0404

LINE ID : @Jumbolife







ไมเกรน (Migraines) เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงชนิดหนึ่ง จะรู้สึกปวดตุบ ๆ รุนแรง โดยมักปวดบริเวณศีรษะข้างเดียว หรือปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดสองข้าง ในขณะที่ปวดก็มักมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย และอาจมีความรู้สึกไวต่อเสียงและแสงสว่างมากกว่าปกติ



ไมเกรน



อาการของไมเกรน



ไมเกรน มักจะเกิดในวัยเด็ก วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ระยะแรก โดยจะแบ่งอาการเป็น 4 ขั้น ได้แก่ ระยะอาการบอกเหตุ (Prodrome) ระยะอาการเตือน (Aura) ระยะปวดศีรษะ (Headache) และระยะหลังจากปวดศีรษะ(Postdrome) ซึ่งผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการในทุกขั้นก็ได้



ระยะอาการบอกเหตุ (Prodrome) ในช่วงหนึ่งหรือสองวันแรกก่อนจะเป็นไมเกรน ผู้ป่วยอาจพบว่ามีอาการบอกเหตุหรือสัญญาณเตือนของการเป็นไมเกรน ดังนี้



การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ ตั้งแต่ภาวะซึมเศร้า (depression) ไปจนถึงภาวะเคลิ้มสุข (euphoria)

ความอยากอาหารบางอย่างเป็นพิเศษ

มีอาการปวดตึงคอ

กระหายน้ำและปัสสาวะบ่อยขึ้น

หาวบ่อย

ท้องผูก

ระยะอาการเตือน (Aura) คือ อาการที่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกับการปวดไมเกรน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะเป็นไมเกรนแบบไม่มีอาการเตือน ซึ่งการเตือนนี้มักค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และอาจเกิดอาการต่อเนื่องเป็นชั่วโมง อาการเตือน สามารถเกิดได้หลายรูปแบบ เช่น มองเห็นแสงกระพริบ ๆ หรือสายตาพร่ามัว มองเห็นรูปภาพเป็นรูปทรงต่าง ๆ ผิดขนาด แสงซิกแซก เห็นจุดแสงวาบ มองเห็นเป็นเส้นคลื่น

นอกจากนั้น อาการนำ อาจเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะที่รับความรู้สึก (ประสาทสัมผัส) การเคลื่อนไหว หรือการพูด พูดลำบาก กล้ามเนื้อจะรู้สึกคล้าย ๆ จะอ่อนแรง หรืออาจรู้สึกเหมือนมีใครกำลังสัมผัสตัวอยู่ รู้สึกชาที่มือหรือเท้า ซึ่งอาการเหล่านี้ จะค่อย ๆ เริ่มเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาที และจะยังคงมีความรู้สึกนี้เป็นชั่วโมง หรือหลายชั่วโมงก็ได้หากมีหลายอาการ

















ระยะที่เกิดอาการปวดศีรษะ (Headache) ในขณะที่ปวดไมเกรน ผู้ป่วยอาจพบว่ามีอาการ ดังนี้



มีอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง

มีอาการปวดแบบตุบ ๆ

แสงจ้า เสียงดัง และกลิ่นฉุนจะกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น

มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

ตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด

มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลม

ระยะที่หายจากการปวดศีรษะ (Postdrome) เป็นระยะสุดท้ายของไมเกรน ซึ่งจะเกิดหลังจากการเกิดไมเกรนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ป่วยอาจพบว่ามีอาการ ดังนี้

มีอาการสับสบ มึนงง

มีอารมณ์หงุดหงิด

เวียนศีรษะ

อ่อนล้า อ่อนแรง

มีความรู้สึกไวต่อแสงและเสียง

หากอาการปวดไมเกรนมีความรุนแรงมาก โดยที่ไม่สามารถจัดการหรือควบคุมอาการได้ด้วยยาแก้ปวด ให้จดจำหรือบันทึกอาการของไมเกรนที่เกิดขึ้้นและวิธีปกติที่ใช้รักษา แล้วไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาต่อไป โดยหากพบว่ามีอาการหรือสัญญาณของไมเกรนดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์

ปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน

ปวดศีรษะพร้อมกับมีไข้ ปวดเมื่อยคอ สับสนมึนงง มีอาการชัก มองเห็นภาพซ้อน หรืออ่อนแรง

มีความรู้สึกชา หรือพูดติดขัดอย่างชัดเจน

มีอาการปวดศีรษะรุนแรงมาก หลังจากได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ

มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ที่เป็นมากขึ้นเวลาไอ เวลาออกแรงมาก หรือเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถเร็วเกินไป

มีอาการปวดศีรษะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำหรับผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 50 ปี

สาเหตุของไมเกรน

ไมเกรนเป็นผลจากความผิดปกติชั่วคราวในการทำงานของสมองที่มีผลกระทบต่อเส้นประสาท สารเคมี และหลอดเลือดในสมอง แต่สาเหตุที่แท้จริงของไมเกรนนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยดังนี้



สิ่งกระตุ้น ที่ทำให้เกิดไมเกรน ได้แก่ ฮอร์โมน อารมณ์ ร่างกาย การรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อม และการใช้ยา เป็นต้น โดยสิ่งกระตุ้นเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและส่งผลในแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนบ่อย ๆ จึงควรสังเกตตนเองและคอยจดบันทึกเพื่อเป็นข้อมูลในการไปปรึกษาแพทย์



การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน



ในผู้ป่วยเพศหญิง อาจเป็นไมเกรนในช่วงที่มีประจำเดือน (Menstrual Migraine) ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น เอสโทรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) โดยไมเกรนชนิดนี้ มักเกิดในช่วง 2 วันก่อนมีประจำเดือน ไปจนถึงวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน ในบางรายพบว่าเป็นไมเกรนแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยเพศหญิงบางราย ก็จะพบว่าเป็นไมเกรนในช่วงเวลาอื่่นที่ไม่ได้เป็นประจำเดือนได้เช่นกัน และในผู้ป่วยเพศหญิงหลาย ๆ ท่าน ก็พบว่า อาการไมเกรนที่เกิดขึ้นนั้นมาจากหลังวัยหมดประจำเดือน (Menopause) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อันส่งผลต่ออารมณ์และร่างกาย และสามารถกระตุ้นไมเกรนได้ หรืออาจทำให้เกิดอาการที่รุนแรงได้ในบางราย ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้

BIM100 ภูมิสมดุล กรดไหลย้อน ข้อเข่าเสื่อม โทร 089 071 8889





BIM100 ภูมิสมดุล กรดไหลย้อน ข้อเข่าเสื่อม 

BIM100 น้ำมังคุด อาหารเสริมสมุนไพร สร้างภูมิสมดุล

สอบถามเพิ่มเติม

https://www.jumbolifeshop.com/p/20

โทร 088-826-4444 , 094-709-4444

        089-071-8889 , 094-435-0404

LINE ID : @Jumbolife







โรคกรดไหลย้อน (ภาษาอังกฤษ – Gastro-Esophageal Reflux Disease; GERD) คือ ภาวะที่มีกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นมา บริเวณหลอดอาหาร



ซึ่งหลอดอาหาร เป็นอวัยวะที่ไม่ทนต่อกรด จึงทำให้เกิดการอักเสบ ของหลอดอาหาร



โดยปกติแล้ว หลอดอาหาร จะมีการบีบตัวไล่อาหารลงด้านล่าง และ หูรูด ทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนของน้ำย่อย กรด หรืออาหาร ไม่ให้ไหลย้อนขึ้นมา บริเวณหลอดอาหาร



แต่ในปัจจุบัน หูรูดส่วนนี้ ทำงานได้น้อยลงในบางคน ซึ่งจะตรวจพบได้ประมาณ 1 ใน 5 คน



พบในคนทั่วไป ทุกกล่ม ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงผู้ใหญ่ แต่จะพบได้มากในคนอ้วน หรือสูบบุหรี่



และการไหลย้อนของกรด ถ้ามีมาก อาจไหลออกนอกหลอดอาหาร อาจทำให้มีผลต่อกล่องเสียง ลำคอ หรือปอดได้



ซึ่งหากละเลยไม่ไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา อาจทำให้เรื้อรัง กลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้



โรคกรดไหลย้อน เกิดจากสาเหตุอะไร?



สาเหตุหลักของโรคกรดไหลย้อน เกี่ยวข้องกับ ความผิดปกติ ในการทำหน้าที่ของ หูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง เช่น



มีการคลายตัวของหูรูดหลอดอาหาร โดยไม่มีการกลืน หรือ ความดันของหูรูดของหลอดอาหารลดลง ไม่สามารถต้านแรงดันในช่องท้อง และการบีบตัวของกระเพราะอาหารได้

















ในภาวะปกติ ร่างกายมีกลไลการป้องกัน การไหลย้อนของน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร ขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยการทำงานของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง



ซึ่งหูรูดนี้ จะคลายตัวขณะที่มีการกลืนอาหาร เพื่อไม่ให้อาหารและกรด จากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไป ในหลอดอาหาร



เมื่อประสิทธิภาพการทำงานของกลไลการควบคุมนี้เสื่อมลง หรือบกพร่อง จึงเกิดกรดไหลย้อน  ซึ่งอาจเกิดเป็นครั้งคราว เป็นพักๆ หรือเกิดตลอดเวลาได้



ส่วนสาเหตุที่ทำให้หูรูดดังกล่าว ทำงานผิดปกตินั้น ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด อาจเกิดจาก หูรูดเสื่อมตามอายุ หูรูดยังเจริญไม่เต็มที่ในเด็กทารก หรือมีความผิดปกติมาแต่กำเนิด



นอกจากนี้ อาจพบในสตรีมีครรภ์ เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน มีผลต่อการทำงานของหูรูดหลอดอาหาร



ปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุ ก่อให้เกิดโรคกรดไหลย้อน ได้แก่



การรับประทานอาหารรสจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด อาหารประเภทไขมันสูง อาหารทอด ชา กาแฟ น้ำอัดลม การดื่มสุรา สูบบุหรี่ ความเครียด



หรือแม้กระทั่ง การนอนเอนหลังทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ ตลอดจนการสวมเสื้อผ้าคับๆ และรัดเข็มขัดแน่นๆ เป็นต้น

สร้างเงินหลักแสนด้วยเงิน3,160บาท ภายใน4-6เดือน ด้วยผลิตภัณฑ์ระดับโลก



ViVa Plus(วีว่า พลัส)น้ำองุ่นสกัดเข้มข้น คุณค่าดื่ม 1 ออนซ์=ไวน์แดง 15 ขวด ค่าการต้านอนุมูลอิสระ orac score สูงที่สุดในโลก 244,050 รับรองโดย แล็บ Brunswick หน่วยงานในสังกัดของ คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โด่งดังจากคลิป โดมกินวิตามิน ในyoutube



ดื่มทุกวันเพื่อผิวพรรณสดใสเปล่งประกายจากภายใน
ค่าในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเครื่องดื่มผลไม้ใดๆ

ในท้องตลาด ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ แบบเทียบไม่ติด


และคุณกำลังจะได้ลอง.... สินค้าคุณภาพจากอเมริกา

อุดมไปด้วยสาร Resveratrol ในน้ำองุ่นสกัดเข้มข้น

ที่มีคุณค่าด้านการช่วยยืดอายุเซลล์ ชะลอความแก่


ทึ่ง !!! ผลการวิจัยระบุแล้วว่า สารResveratrol

ช่วยยืดอายุคนเราได้ถึง 30-40%

แก่ให้ช้าลงอีก แก่ให้ช้าลงอีก..เราดูแลตัวเราเองได้....


VIVA PLUS ช่วยคุณได้


ใครบอกว่า "สุขภาพดีไม่มีขาย...."


คนฝรั่งเศสชอบดื่มไวน์
เพราะเชื่อว่า ทำให้อายุยืนต้านโรคภัย

จะดีหรือไม่ ถ้า VIVA เพียง 1 ออนซ์ คุณค่าเท่ากับ

คุณได้ดื่มไวน์แดงถึง 15 ขวด !!!..

ที่สำคัญน้ำองุ่นวีวาพลัส ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย

แล้วคุณจะทึ่ง!!! เห็นความสดใสในตัวคุณ เมื่อดื่มเพียงขวดแรก

"คุณจะรู้สึกดีขึ้น สดใส สวยเปล่งประกาย ภายใน 7 วัน"


สวยจากภายใน
VIVA PLUS

1 ขวดบรรจุ 32 ออนซ์(960มล.)

หล่อขั้นเทพ อย่าง โดม ปกรณ์ ลัม ก็ดื่มวีว่า


นางงาม ดารา แอร์โฮสเตส ผิวสวยหน้าใส ร่างกายแข็งแรง ด้วยวีว่า


สร้างเงินหลักแสนด้วยเงิน3,160บาท ภายใน4-6เดือน ด้วยผลิตภัณฑ์ระดับโลก
ด้วยการชิมและแชร์วีว่า ร่วมกับ ยุทธศาสตร์หมายเลข6
และร่วมแบ่งปันเทคนิคการทำงานที่เรียบร่างแต่ได้ผล
กับโค้ชผู้มีรายได้หลักล้าน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร
นักศึกษา แม่บ้าน คนทำงานประจำ ข้าราชการ เจ้าของธุรกิจ
ค้นพบอิสระภาพทางการเงินและเวลา
ด้วยตัวคุณเอง เดี๋ยวนี้!!!